Feeds:
Posts
Comments

Posts Tagged ‘book review’

ขอคั่นจังหวะของ Office Shop เสียหน่อย เนื่องด้วยเมื่อเช้านี้ลังพัสดุจาก Head Quarter ส่งมาสองลังใหญ่ใหญ่ จ่าหน้าถึงเราด้วย เลยไปแกะแกะแพะแพะออกมาเป็นหนังสือที่เรารอคอยมานาน!

คนเขียนเรื่องนี้คือ Dr. Keith Sawyer
คุณลุงเค้าจบปริญญาด้านจิตวิทยาและการศึกษา ที่ม.วอชิงตัน และ computer science ที่ MIT
จบมาก็เริ่มทำงานที่บริษัท Atari (ซึ่งเป็นผู้ผลิตวิดีโอเกม) นาน 2 ปี ก่อนที่จะออกมาทำงาน Consult อีก 6 ปี ที่ Boston และ New York
ลุง Sawyer กลับมาศึกษาต่อด้านจิตวิทยาจนสำเร็จเป็น PhD ที่ ม.ชิคาโก เมื่อปี 1994 (ใช้เวลาทำดอกเตอร์ 4 ปี)
ปัจจุบันงานเขียนของเขามีมากมายกว่า 50 เรื่อง

รายละเอียดเท่เท่ เพิ่มเติม: กดเบาเบา

ความเชี่ยวชาญของคุณลุงเค้าจะเน้นสาม-สี่เรื่องคือ

  • Innovation
  • Creativity
  • Learning
  • Playing

การที่ได้หนังสือเล่มนี้มาในมือผมก็ถือเป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าเหมือนกันนะเนี่ย

ขอเวลาอักพักใหญ่จะเอามา Briefing ให้ฟังกันนะจ๊ะ

Links:
1. สั่งซื้อหนังสือของคุณลุง
2. Blog ของคุณลุง

ด้วยรักและจิตวิทยาองค์กร
RT.Rising

Read Full Post »

หลังจากที่มี e-mail ส่งมาบอกว่าให้เข้า website ไป register เข้าระบบ เพื่อลงทะเบียนรอรับหนังสือ ในโครงการ Eager to Learn ผมก็จัดการลงทะเบียนอย่างไม่รอช้าเลย

คำว่า Eager to Learn เป็น 1 ใน Innovation Concept ที่พยายามจะปลูกฝังให้กลายเป็น DNA ของพนักงาน

หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร นกอินทรีย์มันเรียนได้ด้วยเหรอ? อย่าเพิ่งเข้าใจผิดครับ อันนี้มันไม่ได้แปลว่านกอินทรีย์นะครับ อันนั้นมัน Eagle แบบไอ้ตัวที่มันออกมาจิกๆ เวลาเล่น Hunter ใน RO น่ะนะ..

คำว่า Eager to Learn คือ ให้คนเรา “กล้า” ที่จะเรียนรู้ เช่นเดียวกับที่ Google บอกพนักงานของเขาว่า คุณต้องเอาเวลา 20% ของ working time ไสตูดออกจากเก้าอี้ไปพัฒนาตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเรื่องงาน!

ผมเองก็เคยคิดนะครับว่า ถ้ามีบริษัทไหนในเมืองไทยทำแบบนี้ ผมจะไปสมัครแล้วเอาเวลา 20% ไปวิจัยการออกแบบเก้าอี้ชายหาดในที่ทำงาน ที่สามารถทำ power nap แบบที่นักบินเขางีบกันแค่ 15-20 นาที แล้วตื่นมาขับไล่ยิงชาวบ้านได้ต่ออีกสามวัน

ผมว่าหลายหลายที่เข้าใจผิดไป block internet เสียหมด จนพนักงานอาจจะต้องเดินไปหอสมุดแห่งชาติเพื่อไปหาข้อมูลแทน การเริ่มต้นของ Eager to Learn แท้จริงแล้วควรจับระดับบริหารไปทำความเข้าใจวัฒนธรรม 2.0 เสียก่อน ไม่ก็ให้เรียนรู้จากลูกตัวเอง(ในกรณีมีครอบครัว) หรือกิ๊กตัวเอง(ในกรณีกิ๊กเล่น hi5) ให้เข้าใจว่า second life มันเป็นยังไง มันต่างจาก half-life มั้ย? บลาๆ

พอฝ่ายบริหารเข้าใจแล้ว ก็จะทำให้เกิด Eager to Learn แบบ Original ขึ้นมาทันที
แล้ว KM ก็จะบังเกิด
แล้วบริษัทก็จะกลายเป็น LO – Learning Organization 😀

เอาล่ะ อาทิตย์หน้าจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว แล้วจะเอามาเข้า step ต่อไปของ Eager to Learn นะครับ คือ Book Briefing ^_^

ด้วยรักและประกันสังคม
RT.Rising

Read Full Post »